ดราม่าคณะครู เข้าพักรีสอร์ต ของหาย ย้ายเงิน

[Naprapats]

รีสอร์ตดังแชร์อุทาหรณ์ ดราม่าคณะครู! เข้าพักรีสอร์ต ขอเปลี่ยนห้องแม้กระนั้นทำการย้ายทรัพย์สินโดยพลการ รวมทั้งยังพบว่าของหาย แถมตอนเช็กบิล ลั่น! ไม่โอนเงิน

วันที่ 26 เม.ย. 66 กลายเป็นดราม่าเดือดสนั่นในโลกโซเชียล ชาวเน็ตแห่ติชมกันอย่างหนัก เมื่อเพจรีสอร์ตโด่งดัง : "บ้านนาย บังกะโล" ได้ออกมาโพสต์แชร์ ตัวอย่างผู้เข้าพักมีความกล้าหาญแสบ ย้ายทรัพย์สินโดยพลการ แล้วก็ยังพบว่าของหาย แถมตอนเช็กบิล ลั่น! ไม่โอนเงิน

โดยทางรีสอร์ตเล่าว่า คืนก่อนหน้านี้มีลูกค้าเป็นกลุ่มคณะครูจากสถานที่เรียนแห่งหนึ่ง ได้ทำการจองห้องไว้เป็นห้องสำหรับ 10 ท่าน 1 ห้อง เเละ ห้องสำหรับ 2 ท่าน 1 ห้อง

ก่อนจะทำ ขอยกเลิกห้องสำหรับ 10 ท่าน เปลี่ยนเป็นห้องสำหรับ 2 ท่าน จำนวน 3 ห้องแทน ซึ่งทางผู้เข้าพักยังมิได้คืนกุญแจห้องสำหรับ 10 ท่านให้กับทางรีสอร์ต ดังนี้ทางรีสอร์ตแจ้งว่าเป็นความผิดของทางรีสอร์ตเองที่มิได้เร่งรัดติดตามนำกุญแจคืน
ทางรีสอร์ตฟาดประโยคเชือดเฉือนว่า "ไม่อยากเชื่อเลยนะ ว่าฝูงชนที่กำลังให้การเล่าเรียนของบุตรหลานของคนใดกลุ่มหนึ่งอยู่ ได้กระทำการยกที่นอนเตียงจากห้องสำหรับ 10 ท่าน ที่คนกรุ๊ปนั้นได้ยกเลิกไปเเล้ว นำออกไปใช้เป็นเตียงเสริมที่ไม่ต้องการที่จะอยากจ่ายเงินในห้อง 2 ท่านของตนเอง

โดยทั้งผองมีเบาะ 2 เตียงร่วมกัน ผ้าที่เอาไว้สำหรับเช็ดตัวถูกใช้ทั้ง 5 ผืน ซึ่งหายไปอีก 5 ผืน รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ในห้องที่ผู้เข้าพักกลุ่มดังที่กล่าวถึงมาแล้วยกเลิกไปแล้วก็ค่อยนำไปใช้ทั้งผอง โดยมิได้ขออนุญาตจากทางรีสอร์ต

โดยทางผู้เข้าพักได้บอกเหตุผลกับทางรีสอร์ตว่า "ก็มองเห็นห้องเปิดอยู่เลยคิดว่าเอามาใช้ได้" เป็นการตั้งมั่นขนเงินโดยพลการ , ไม่มีการเเจ้งทราบ รวมทั้ง ละเมิดสถานที่ของทางพวกเรา ซึ่งทางรีสอร์ตได้รู้เรื่องนี้หลังจากที่คุณครูกลุ่มนี้ได้ออกไปแล้ว


อีกทั้งทางบุคลากรของรีสอร์ตก็ได้คืนเงินมัดจำกุญแจทั้งหมดไป โดยไม่ได้เช็กห้อง เหตุเพราะผู้เข้าพักกลุ่มนี้เช็กเอ้าท์ออกไปตอนเวลาเช้าตรู่ ซึ่งในตอนนั้นมีพนักงานของทางรีสอร์ตอยู่ตามลำพังคนเดียวและกำลังติดภารกิจ จึงมิได้กระทำสำรวจห้องพักก่อนลูกค้าออกไป

เมื่อทางรีสอร์ตทราบเรื่องทั้งสิ้น ก็เลยติดต่อไปทางผู้เข้าพักกรุ๊ปดังที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อต้องการรู้ความเป็นจริง ซึ่ง ฝั่งผู้เข้าพักยอมรับ แต่ไม่ขอรับผิดถูกใจใดๆทั้งบอกว่า "แฟร์ๆหน่อยสิคะ ทางพวกเราเอามาใช้ก็จริง เเต่มาทำอย่างนี้ มาบอกว่าพวกเราทำอันนู่นหาย อันนี้หาย เพราะเหตุใดไม่เช็กตั้งเเต่เราออกจากห้อง เเล้วแบบนี้จะมาบอกว่าเป็นความผิดของทางพวกเรา ที่เราเอาเตียงไปใช้ พวกเราจะขอจ่ายเเค่ค่าเตียงที่เราเอาไปใช้สิ่งเดียว"

สุดท้ายทางรีสอร์ตแจ้งว่า ได้กระทำการคิดค่าห้องเต็มปริมาณ โดยไม่ได้คิดค่า ผ้าขนหนูรวมทั้งค่ากุญแจที่หายไป เนื่องด้วยทางรีสอร์ตผิดเองที่มิได้เข้าไปเช็กห้อง เเต่คิดเพียงค่าห้องที่ลูกค้ามาใช้ห้องของทางรีสอร์ตโดยพลการ ซึ่งลูกค้าก็สารภาพในส่วนนั้นว่าทำจริง เเต่ไม่ขอรับผิดถูกใจใดๆ

ก่อนที่จะโพสต์ดังที่กล่าวมาข้างต้นจะตบท้ายสุดเดือดว่า "หวังว่าประเด็นนี้จะช่วยให้ผู้ดูแลที่ส่งลูกเรียนกับคนพวกนี้ได้คิดอีกซักนิด ว่าจะส่งบุตรหลานไปเรียนโรงเรียนที่อาจารย์ทำสิ่งที่ไม่ดีกับผู้อื่น เเต่ไม่คิดรับผิดชอบจริงๆไหม"

"เเละขอลงเป็นตัวอย่างแก่ผู้ประกอบธุรกิจท่านอื่นๆให้ทำการเทรนบุคลากร เเละเคร่งกับการตรวจตราห้องเช่าก่อนลูกค้าออกไปด้วยความตั้งใจจริงกันด้วย"

ด้านชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มผู้เข้าพักสนั่นถึงวีรกรรมเดือดรวมทั้งความประพฤติปฏิบัติไม่รับผิดชอบดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เชียร์ให้ทางรีสอร์ตดำเนินการไปทางขึ้นอยู่กับ รวมถึงให้กำลังใจทางรีสอร์ตและก็พร้อมส่งเสริม
ดราม่าคณะครู
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13904/