• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

การจัดการคลังสินค้าและควบคุมสินค้าคงคลัง อย่างมีประสิทธิภาพ

Started by Naprapats, July 24, 2024, 09:24:25 AM

Previous topic - Next topic

Naprapats

"การจัดการคลังสินค้าและควบคุมสินค้าคงคลัง
อย่างมีประสิทธิภาพ"
วิทยากร :  อาจารย์ อนันต์ ดีโรจนวงศ์
ที่ปรึกษาสมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน (A.S.I.A.)ที่ปรึกษาเครือข่าย Lean Production สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น
ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมการผลิตและโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
 ที่ปรึกษาสถานประกอบการดีเด่นโครงการ OPOAI กระทรวงอุตสาหกรรม
MBA Logistics Management30 กรกฎาคม 256709.00 – 16.00 น.** โรงแรมโกลด์ ออร์คิด กรุงเทพฯ (ถนนวิภาวดีฯ-สุทธิสาร)*สถานที่จัดสัมมนาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------หลักการและเหตุผล          การจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management) เป็นการจัดการในการรับ การตรวจสอบและตรวจนับ การจัดเก็บสินค้าและวัตถุดิบได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องในส่วนขาเข้า (inbound) รวมถึง การหยิบสินค้า ตรวจสอบ และจัดส่งสินค้าให้ผู้รับเพื่อกิจกรรมการขายตามคำสั่งซื้อของลูกค้าในส่วนขาออก (Outbound) เป้าหมายหลักในการบริหารและดำเนินการจัดการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคลังสินค้าก็เพื่อให้เกิดระบบที่ดี มีประสิทธิภาพและคุ้มกับการลงทุน รวมถึงการควบคุมคุณภาพของการเก็บ การหยิบสินค้าได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย การป้องกันและลดการสูญเสียจากการดำเนินงานเพื่อให้ต้นทุนการดำเนินงานต่ำที่สุด เพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า และการใช้ประโยชน์เต็มที่จากพื้นที่คลังสินค้า การจัดการคลังสินค้าจึงนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญส่วนหนึ่งในโซ่อุปาทานการควบคุมสินค้าคงคลัง (Inventory Control) สินค้าคงคลังมีวัตถุประสงค์ในการสร้างความสมดุลในซัพพลายเชน เพื่อให้ระดับสินค้าคงคลังต่ำสุด โดยไม่กระทบต่อระดับการให้บริการ โดยปัจจัยนำเข้าของกระบวนการผลิตที่มีความสำคัญอย่างยิ่งคือ วัตถุดิบ ชิ้นส่วนและวัสดุต่าง ๆ ที่เรียกรวมกันว่าสินค้าคงคลัง  ต้นทุนสินค้าคงคลังเป็นต้นทุนการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนั้นการจัดการสินค้าคงคลังมีวัตถุประสงค์หลักอยู่ที่สามารถมีสินค้าคงคลังบริการลูกค้าในปริมาณที่เพียงพอ และทันต่อการความต้องการของลูกค้าเสมอ เพื่อสร้างยอดขายและรักษาระดับของส่วนแบ่งตลาดไว้โดยสามารถลดระดับการลงทุนในสินค้าคงคลังต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงด้วย           ดังนั้นการจัดการคลังสินค้าและการควบคุมสินค้าคงคลังจึงเป็นสิ่งจำเป็นและต้องทำร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าสามารถป้อนวัตถุดิบให้กับสายการผลิตได้อย่างต่อเนื่องเพื่อผลิตและส่งมอบสินค้าได้ทันตามเป้าหมายที่กำหนด ในขณะที่คลังสินค้ามีปริมาณสินค้าวัตถุดิบในจำนวนที่เหมาะสม ไม่มากและน้อยจนเกินไปจนทำให้เกิดปัญหาด้านการผลิตซึ่งจะทำให้ต้นทุนการจัดเก็บสินค้าคงคลังต่ำอย่างเหมาะสม ส่งผลให้ผลดำเนินการทางธุรกิจดีขึ้น พนักงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีกำไรมากขึ้น สามารถผลิตสินค้าได้รวดเร็วและเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่คลังสินค้าขนาดใหญ่อีกต่อไป รวมถึงปัญหาการดำเนินการต่างๆภายในคลังสินค้าลดลงวัตถุประสงค์
1. เพื่อสามารถบริหารจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถควบคุมและเพิ่มความรวดเร็วในการการทำกิจกรรมต่าง ๆภายในคลังสินค้า
2. เพื่อลดต้นทุนและพื้นที่การจัดการปริมาณสินค้าคงคลังจำนวนมาก
3. เพื่อสามารถจัดเก็บสินค้าหรือวัตถุดิบได้อย่างเหมาะสมตามปริมาณที่ลูกค้าต้องการ
4. เพื่อสามารถทราบข้อมูลสินค้าคงคลังได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และครบถ้วน เพื่อนำไปวิเคราะห์และพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
5. เพื่อเพิ่มรอบการหมุนเวียนของสินค้าคงคลังได้มากขึ้น สามารถจัดเก็บสินค้าได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มพื้นที่คลังสินค้าเนื้อหาของหลักสูตร
1. การบริหารจัดการกิจกรรมต่าง ๆในคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ- การบริหารจัดการกิจกรรมต่าง ๆในคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ- การจัดพื้นที่คลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ การวางผังของคลังสินค้าและการจัดการการ  ไหล- การวัดผลการปฏิบัติงานของคลังสินค้า- การวัดอัตรารอบการหมุนเวียนสินค้าคงคลัง (Inventory Turnover Ratio)
2. การควบคุมสินค้าคงคลังอย่างมืออาชีพ - การจัดการและบริหารต้นทุนสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ- Economic Order Quantity (EOQ) การสั่งซื้อที่ประหยัด- การกำหนดค่า Safety Stock และจุดการสั่งซื้อซ้ำ (Re-order Point) ที่เหมาะสม
3. การแบ่งกลุ่มสินค้าคงคลังแบบ ABC- การตรวจนับสินค้าตามรอบระยะเวลา (Cycle Count inventory)- วิธีการตรวจนับสินค้าด้วยระบบ Stock Card- การแบ่งกลุ่มสินค้าตามหลักการ Pareto- การกำหนดปริมาณสินค้าคงคลัง Type A, B และ C
4. เครื่องมือและเทคโนโลยีการจัดการคลังสินค้า- การใช้ Barcode & RFID ในการบ่งบอกสินค้า- การใช้ระบบ WMS (Warehouse Management System)
5. กรณีศึกษา การลดต้นทุนการดำเนินงานคลังสินค้าอย่างได้ผล- การใช้ระบบ Pick face เพื่อการหยิบสินค้า
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ราคาโปรโมชั่นสุดำพิเศษ เลือกสมัครได้ตามใจชอบ
สมัคร 1 ท่าน 3,700.- บาท
สมัคร 2 ท่าน จ่ายเพียง 7,000.- บาท
สมัคร 3 ท่าน จ่ายเพียง 8,900.- บาท
หรือ สมัคร 4 จ่าย 3 ในราคาท่านละ 3,700.- บาท

Beer625


Jenny937


Cindy700