• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

มาตรการกระตุ้นอสังหา 2567: ทางเลือกใหม่สู่การมีบ้านในฝัน

Started by ButterBear, September 23, 2024, 02:15:50 PM

Previous topic - Next topic

ButterBear


ในปี 2567 รัฐบาลไทยได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น และเป็นการกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว มาตรการเหล่านี้ครอบคลุมตั้งแต่การลดค่าธรรมเนียมการโอนและจำนอง ไปจนถึงโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย

1. การลดค่าธรรมเนียมการโอนและจำนอง

รัฐบาลได้ประกาศลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือเพียง 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าไม่เกิน 7 ล้านบาท มาตรการนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567

2. มาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับการสร้างบ้าน

ผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านสามารถหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าจ้างก่อสร้างได้ 10,000 บาทต่อค่าก่อสร้าง 1 ล้านบาท โดยสามารถหักลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท ทั้งนี้ต้องเป็นการก่อสร้างที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2568

3. โครงการสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้เปิดตัวโครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home และ Happy Life โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี เป็นเวลา 5 ปี นอกจากนี้ยังมีโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 ซึ่งให้วงเงินกู้สูงสุด 1.5 ล้านบาท ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี นาน 5 ปีเช่นกัน

4. มาตรการ LTV (Loan to Value)

ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปรับเกณฑ์ LTV เพื่อให้ประชาชนสามารถกู้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น โดยอนุญาตให้กู้เพิ่มได้อีก 10% ของมูลค่าหลักประกัน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าตกแต่ง ซ่อมแซม หรือต่อเติมบ้าน

มาตรการกระตุ้นอสังหา 2567 เหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ประชาชนมีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น แต่ยังส่งผลดีต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง อีกทั้งยังเป็นการดึงดูดนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตให้มาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในระยะยาว