8 สิ่งที่คนทำงานประจำ จำต้องพบ

[Ailie662]

1. อย่าเป็นตัวของตัวเองเกินไปในโลกอินเตอร์เน็ต

หลายท่านเชื่อว่าโลกออนไลน์เป็นพื้นที่ส่วนตัว จะโพสต์อะไรมันก็สิทธิ์ของพวกเรา แม้กระนั้นทราบรึเปล่าว่า HR ปัจจุบันนอกเหนือจากการที่จะมอง resume เราแล้ว ยังมองเฟสของเราด้วย เพื่อนพ้องพวกเราที่เป็น HR ยืนยันมาว่าหน้าเฟสบอกความเป็นตัวตนที่แท้จริงของพวกเราได้มากกว่า

Resume เป็นสิบเท่า สิ่งที่พวกเราโพสลงบนโลกอินเตอร์เน็ตของเรานั้นส่งผลกับพวกเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อเราเป็นมนุษย์เงินเดือนสุดกำลัง เรื่องพวกนี้ยิ่งต้องระวัง หรือ


หากอย า กมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆเสนอแนะให้แยกเฟสสถานที่สำหรับทำงาน กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาธาราณพด้วย ยิ่งเรื่องดราม่าในที่ทำงาน เกลีย ดคนนั้น เบื่องาน หัวหน้าโง่เขลาเบาปัญญา ห้ามโพสต์เด็ดขาด โพสต์ปุ้บมีคนแคปไปฟ้องแน่ๆ

2. จงเป็น "ผู้รับจ้างมืออาชีพ"

ถ้าอย า กเป็นพนักงานประจำที่ประสบความสำเร็จและก็มีความสุข ควรเป็น "ลูกจ้างมือโปร" ให้ได้ ลูกจ้างมืออาชีพก็คือผู้ที่ตระหนักได้ว่า "เราถูกว่าจ้างมาด้วยค่าแรงจำนวนหนึ่ง"

นั่นถือว่าบริษัทเค้าอยากบางสิ่งจากพวกเราแลกกับค่าแรงนั้นๆเราต้องรู้ว่าบริษัทว่าจ้างพวกเรามาทำอะไร รวมทั้งทำมันให้ดียิ่งกว่าที่บริษัทมุ่งหวังถ้าเกิดปรารถนาความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่

แม้งานที่ทำอยู่คิดว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของเรา ก็ไม่สมควรอดทนทำไป น่าจะหางานที่เราทำแล้วพวกเรามีความสุขและทำได้ดีเพื่อดึงความสามารถของตนออกมาให้สูงที่สุด


นอกเหนือจากที่จะทำให้เราเติบโตในองค์กรแล้ว ยังส่งผลให้พวกเราพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลาและไม่เบื่อด้วย แต่ว่าก็มิได้จะเชียร์ให้เป็นคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อนะ อดทนทำไปจนกระทั่งจุดหนึ่ง

พวกเราจะทราบเองว่าควรไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ใช่ให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วพวกเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าผู้อื่น อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกกี่ครั้งก็ได้ หากสุดท้ายพวกเราพบสายอาชีพที่เรารักรวมทั้งอย า กทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากมาย

รวมทั้ง ด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน "เราถูกจ้างมาด้วยค่าแรงงานจำนวนหนึ่ง" อย่าทำงานหนักเกินกว่าเงินเดือนจนเกินไป ทุ่มเทได้ แต่ว่าจะต้องมีผลสรุปที่ดีตามออกมาด้วย เป็นต้นว่าได้ปรับค่าจ้างรายเดือน ได้ประเมินดี

หาเวลาอยู่กับพ่อแม่ พี่น้องๆบ้ า ง หันกลับไปมองข้างหลังบ้ า งว่าคนที่เป็นบันไดให้พวกเรามายืนจุดนี้ ในตอนนี้เค้าคืออะไรกันบ้ า งนะ? อย่าลืมว่าพ่อแม่แก่ลงทุกวัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย ถ้าเกิดเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้แก่คุณแล้วหาเวลาไป มันไม่ตรากตรำหรอก แลกกับความสบายของพ่อแม่

3. มีคู่รักในที่ทำงานได้แต่ว่าจำเป็นต้องยอมรับผลที่ตามมา

ถ้าเกิดคุณเป็นคนที่แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ออก ชี้แนะว่าอย่ามีคู่รักในที่ทำงาน ไม่ได้บอกว่าไม่ควรคบคนภายในที่ทำงาน แม้กระนั้นหากคบรวมทั้งจำเป็นต้องยอมรับผลปรากฏว่าให้ได้ บางทีอาจจะต้องพบเรื่องยกตัวอย่างเช่น

เถียงกับแฟนมาแล้วจำต้องมาคุยงานกัน มีผู้ใดกันแน่บ้ า งแยกประเภทเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากงานได้ 100% บ้ า ง ถ้าหากไม่ต้องเจอหน้ากันทุกเมื่อเชื่อวันหรือปฏิบัติงานสนิทสนมก็ยังเพียงพอโอเค แต่ว่าถ้ากลุ่มเดียวกันบางทีอาจจะเมื่อยล้าหน่อย ทะเลาะกันขึ้นมาเมื่อใดรู้ทีค่อนบริษัท

4. หาคนที่เป็นมากกว่าเพื่อนร่วมงานให้พบ

ไม่เหมือนกันระหว่าง "เพื่อนพ้อง" กับ "เพื่อนร่วมงาน" เป็นยังไง...? ที่เค้าบอกว่ายิ่งโต ยิ่งหาสหายย า กก็น่าจะจริง สมัยประถม การหาเพื่อนฝูงใหม่ไม่ย า กเท่ายุคมัธยม รวมทั้ง การหาเพื่อนฝูงในยุคมัธยมก็ไม่อย า กเท่าตอนเข้ามหาวิทย า ลัย มันมีความหมายว่ายิ่งเราโตขึ้นเยอะแค่ไหน เราจะหาสหายย า กขึ้นเท่านั้น และไม่ต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนพ้องที่แท้ใจคนนึงในที่ทำงานมันย า กแค่ไหน นอกเหนือจากที่จะมีเรื่องผล

ตอบแทน ทั้งตำแหน่ง เงินเดือน การประมาณ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของผู้คนค่าตอบแทนรายเดือนอย่างพวกเราเป็นไปดำเนินงาน มิได้ไปทำกิจกรรมสานสมาคมหาสหาย โดยเหตุนั้นวันๆพวกเราก็เลยจะพบเพียงแค่เพื่อนร่วมกลุ่ม ซึ่งโดยมากแล้วหลังจากนั้นก็เป็นการคุยกันเพียงแค่เรื่องงานเพียงแค่นั้น การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้วสนิทใจแบบนี้ เรามีความคิดว่ามันคือกำไรชีวิต


พย า ย า มหาคนพวกนี้ให้พบในสังคมการทำงาน แล้วเราจะอย า กไปทำงานมากขึ้น ให้พวกเราทดลองถามตัวเองว่า "หากเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย า กนัดหมายคนนี้กินข้าวอยู่ไหม...?" ถ้าเกิดคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณพบสหายจริงๆในที่ทำงานแล้วววว

5. พอใจแต่ว่าอย่าใส่ใจทางวิ่งผู้อื่น จุดโฟกัสที่ทางวิ่งของเรา

เมื่อดำเนินการไปนานๆเราอาจมองเห็นเพื่อนๆในสถานที่ทำงานของเราผู้คนจำนวนมากเริ่ม ออกไปศึกษาต่อ สร้างครอบครัว บางบุคคลแปลงงานไปงานที่ค่าจ้างรายเดือนสูงสุดๆบางคนเริ่มธุรกิจของตัวเอง

ไอคนนั้นคนนี้ก้าวหน้าแล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ ต้องจำไว้ว่าอย่าเอาจังหวะชีวิตของพวกเราไปเปรียบเทียบกับบุคคลอื่นเด็ดขาด โฟกัสที่ลู่วิ่งของพวกเรา รู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร

ทราบดีว่าปลายทางเราปรารถนาอะไร ทราบว่าวันนี้พวกเราประพฤติดีกว่าเมื่อวานนี้แล้วหรือยัง ก็พอเพียงแล้ว แอบมองลู่วิ่งบุคคลอื่นบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงผลักดันตนเองให้พย า ย า มเยอะขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่าเอามาเทียบจนกระทั่งทำให้ตนเองทุกข์

6. เล่นการเมืองกับทุกคน

เล่นการเมืองกับทุกคนมิได้มีความหมายว่าให้พวกเราไม่จริงใจกับคนใด แม้กระนั้นการเล่นการเมืองกับทุกคนคือ.. การที่พวกเรามองว่าคนนี้เป็นคนอย่างไร จะเข้ากับเขาได้ยังไง มิได้พูดว่าให้สตอเบอร์ปรี่ หรือฝืนตนเองมากๆนะ แต่ว่าแต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความชื่นชอบ โตมาในสังคมที่ไม่เหมือนกัน การที่พวกเราดูแล้วรู้ว่าจะ "อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร"

ได้เช่นไรจะมีผลให้พวกเราเหนือกว่ามากๆเว้นเสียแต่วางตัวง่ายแล้ว พวกเราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมถึงบางคนที่ดูแล้วไม่ถูกจริตกัน การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักสวัสดีตามมารย า ท ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... เราไม่เคยรู้หรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงเราเข้าไปปฏิบัติงานกับคนไหนกันแน่ ด้วยเหตุดังกล่าว อย่าสร้างศั ต รู เด็ดขาด...!!!

7. โดนด่าวันนี้ ดียิ่งกว่าโดนดุตอนอายุ 50

เนื่องจากว่าอายุเรายังน้อยนี่คือสิ่งที่ได้เปรียบสุด เนื่องจากว่า อายุยังน้อยความมุ่งมาดจากคนรอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย ทำอะไรผิดก็มักมีคนยกโทษเสมอ ถึงแม้พวกเราจะรู้สึกกดดันสำหรับในการปฏิบัติงานสุดๆแม้กระนั้นเชื่อเถอะ พวกเราล้มเหลววันนี้ ดียิ่งกว่าเราไปล้มตอนอายุ 50 ถึงวันนั้นจะปลอดคนคุ้มกะลาหัวเราด้วย

8. พวกเรามิได้เกิดขึ้นมาเพื่อปฏิบัติงานสิ่งเดียว

เรามิได้ทำงานแล้วแฮปปี้ทุกวี่ทุกวัน หลายคราวที่พวกเรากลับไปบ้ า นแล้วอย า กจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แต่ว่าถ้าเกิดพวกเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต ดังเช่นว่า เก็บเงินซื้ อ บ้ า น ซื้ อ รถยนต์ เที่ยวรอบโลก การเปลี่ยนมาทำเรื่องที่พวกเราถูกใจจะทำให้ยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้น แล้วก็เพิ่มความเชื่อมั่นและมั่นใจ เพราะการเฟลจากที่ดำเนินงานส่วนใหญ่มักทำให้พวกเราเสียกำลังใจ

และขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง สำหรับเรามันส่งผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน แล้วก็อีกเยอะมาก ยกตัวอย่าง พวกเรามีเพื่อนพ้องคนนึงถูกใจตัดเย็บเสื้อผ้ามากมาย จริงจังขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร์อาทิตย์ ในเวลานี้ดำเนินงานประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย ตั้งอกตั้งใจทำงานเกิดเรื่องที่ดี แต่ว่าหาอันอื่นทำบ้ า งชีวิตจะได้ไม่เฉาคาที่ทำงาน
ประจำพนักงาน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13496/