ลงประกาศฟรี โพสต์ฟรี โปรโมทเว็บไซต์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

ตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ โฆษณาสินค้าฟรี => เฟอร์นิเจอร์, การตกแต่ง => Topic started by: kaidee20 on May 13, 2025, 02:40:43 AM

Title: ขั้นตอนการติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ และสิ่งที่ควรรู้เพื่อให้พื้นสวยงามและทนทาน
Post by: kaidee20 on May 13, 2025, 02:40:43 AM
ขั้นตอนการติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ และสิ่งที่ควรรู้เพื่อให้พื้นสวยงามและทนทาน

(https://www.kswood.com/wp-content/uploads/2025/04/engineered-ref10-400x600.webp)

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์เป็นตัวเลือกยอดนิยมที่ให้ความสวยงามของไม้จริง พร้อมคุณสมบัติที่ดีขึ้นในเรื่องความคงตัว การติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์อาจดูเหมือนง่ายกว่าการติดตั้งพื้นไม้จริงแบบดั้งเดิม แต่ก็ยังต้องอาศัยความใส่ใจในรายละเอียดและการทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้พื้นไม้ที่สวยงาม ได้ระนาบ และมีอายุการใช้งานยาวนาน บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนการติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่สำคัญ พร้อมสิ่งที่ควรรู้และข้อควรระวัง ทั้งสำหรับผู้ที่ต้องการจ้างช่างมืออาชีพและผู้ที่สนใจติดตั้งด้วยตัวเอง (DIY)
สิ่งที่ควรรู้และต้องเตรียมการ ก่อนเริ่มติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์

การเตรียมการที่ดีคือกุญแจสำคัญของความสำเร็จในการติดตั้งพื้นไม้ทุกชนิด โดยเฉพาะพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ มีหลายสิ่งที่คุณต้องจัดการก่อนที่จะเริ่มปูไม้แผ่นแรก:
[ol]
[/ol]

ขั้นตอนการติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (สำหรับระบบคลิกล็อกแบบลอยตัว ซึ่งเป็นที่นิยม)
การติดตั้งแบบลอยตัว (Floating Installation) โดยใช้ระบบคลิกล็อก (Click-lock System) เป็นวิธีที่นิยมสำหรับไม้เอ็นจิเนียร์ เพราะติดตั้งง่าย ไม่ต้องใช้กาวหรือตะปูยึดติดกับพื้นเดิม:
ขั้นตอนที่ 1: วางแผนทิศทางการปูและจัดแนวเริ่มต้น ตัดสินใจว่าจะปูพื้นไม้ไปในทิศทางใด โดยทั่วไปมักจะปูให้ขนานกับผนังที่ยาวที่สุด หรือตั้งฉากกับแนวคานพื้น (ในกรณีที่เป็นพื้นไม้เดิม) การเริ่มต้นปูแถวแรกให้ตรงและได้แนวเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากจะเป็นแนวทางสำหรับการปูทั้งห้อง
ขั้นตอนที่ 2: ติดตั้งแผ่นรองพื้น (Underlayment) ปูแผ่นรองพื้นสำหรับพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (ซึ่งอาจเป็นโฟม PE, EVA หรือวัสดุอื่นๆ ที่มีฟิล์มกันความชื้นในตัว หรือต้องปูแผ่นฟิล์มกันความชื้นก่อนแล้วจึงปูแผ่นรองพื้น) แผ่นรองพื้นช่วยป้องกันความชื้นจากพื้นเดิม ลดเสียงดังจากการเดิน และช่วยปรับระดับพื้นเดิมที่ไม่เรียบเล็กน้อย ปูแผ่นรองพื้นให้คลุมพื้นที่ทั้งหมด โดยให้ขอบแต่ละแผ่นชิดกันหรือซ้อนทับกันเล็กน้อยตามคำแนะนำของผู้ผลิต
ขั้นตอนที่ 3: เริ่มปูไม้แถวแรก เริ่มต้นปูจากมุมห้อง โดยให้ด้านลิ้นของไม้หันออกจากผนัง วางไม้แผ่นแรกโดยเว้นระยะห่างจากผนังประมาณ 10-15 มิลลิเมตร (สำหรับเป็นระยะห่างการขยายตัว หรือ Expansion Gap) โดยใช้ Spacers สอดไว้ระหว่างขอบไม้กับผนัง วางไม้แผ่นถัดไปในแถวแรก เชื่อมต่อด้วยระบบคลิกล็อกของไม้แต่ละแผ่น ใช้ Tapping Block และค้อนยางเคาะเบาๆ ที่ขอบไม้เพื่อให้ลิ้นและร่องเข้าสนิทกันตลอดแนว
ขั้นตอนที่ 4: การตัดไม้และการปูแถวถัดไป เมื่อปูไม้ถึงปลายแถว ให้วัดระยะที่เหลือและตัดไม้แผ่นสุดท้ายให้พอดี (อย่าลืมหักระยะ Expansion Gap ที่ปลายแถวด้วย) มักจะใช้เศษไม้ที่เหลือจากการตัดแผ่นสุดท้าย (ถ้ามีความยาวพอสมควร) เพื่อเริ่มต้นปูในแถวที่สอง การเริ่มต้นแถวใหม่ด้วยเศษไม้จะช่วยให้รอยต่อของแผ่นไม้ในแต่ละแถวไม่ตรงกัน (Staggered Joints) ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความสวยงาม ปูแถวที่สองโดยนำแผ่นไม้มาเอียงทำมุมเล็กน้อยแล้วกดให้คลิกเข้ากับลิ้นของไม้แถวแรก ค่อยๆ วางแผ่นไม้ลง แล้วใช้ Tapping Block และค้อนยางเคาะตามยาวเพื่อให้แผ่นไม้เข้าสนิทกันตลอดแนว ทำซ้ำขั้นตอนนี้ไปเรื่อยๆ จนเกือบถึงผนังฝั่งตรงข้าม
ขั้นตอนที่ 5: การตัดไม้รอบสิ่งกีดขวาง เมื่อต้องปูไม้รอบเสา วงกบประตู หรือมุมห้องต่างๆ ต้องวัดขนาดและตัดไม้ให้เป็นรูปทรงตามสิ่งกีดขวางนั้นๆ อย่างระมัดระวัง โดยยังคงต้องเว้นระยะ Expansion Gap รอบสิ่งกีดขวางเหล่านั้นด้วย
ขั้นตอนที่ 6: การปูแถวสุดท้าย เมื่อมาถึงแถวสุดท้าย มักจะต้องวัดความกว้างของแถวสุดท้ายและใช้เลื่อยตัดไม้ตามยาวตลอดแนว (อย่าลืมหักระยะ Expansion Gap ที่ชิดผนัง) การใส่ไม้แผ่นสุดท้ายอาจต้องใช้ Pull Bar สอดเข้าไปที่ขอบไม้ด้านที่ชิดผนัง แล้วใช้ค้อนเคาะเบาๆ เพื่อดึงให้แผ่นไม้เข้าลิ้นกับไม้ในแถวก่อนหน้าจนสนิท
ขั้นตอนที่ 7 (สำหรับวิธีติดกาว - Glue-down): หากเลือกติดตั้งแบบติดกาว หลังจากเตรียมพื้นเดิมและวางแนวแล้ว ให้ใช้เกรียงสำหรับปาดกาว (เลือกขนาดและชนิดของเกรียงตามคำแนะนำของผู้ผลิตกาว) ปาดกาวลงบนพื้นเดิมทีละส่วน (ประมาณ 1-2 ตารางเมตร) แล้วนำไม้เอ็นจิเนียร์มาวางและกดลงบนกาวทันที ทำตามขั้นตอนการปูเหมือนวิธีลอยตัว แต่ต้องระวังไม่ให้กาวเลอะขึ้นมาบนผิวไม้ และเช็ดกาวที่เลอะออกทันทีตามคำแนะนำของกาวที่ใช้

สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติมและข้อควรระวังในการติดตั้ง
[ul]
[/ul]
หลังการติดตั้ง
หลังจากติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์เสร็จแล้ว ให้ทำความสะอาดพื้นผิวโดยการดูดฝุ่นหรือกวาดเศษไม้และขี้เลื่อยออก ติดตั้งบัวเชิงผนัง (Baseboard) หรืออุปกรณ์จบงานอื่นๆ เพื่อปิดช่องว่าง Expansion Gap ที่เว้นไว้ ควรหลีกเลี่ยงการวางเฟอร์นิเจอร์หนักๆ ทันทีหลังติดตั้ง (โดยเฉพาะวิธีติดกาว) เพื่อให้กาวเซ็ตตัวเต็มที่ และเริ่มต้นการดูแลรักษาพื้นตามคำแนะนำของผู้ผลิต



การติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ต้องอาศัยความใส่ใจในรายละเอียดตั้งแต่การเตรียมพื้น การปรับสภาพไม้ ไปจนถึงขั้นตอนการปูแต่ละแผ่น การทำตามคำแนะนำของผู้ผลิตและการเว้นระยะห่างการขยายตัวเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง แม้การติดตั้งบางวิธีจะทำได้เอง แต่หากไม่มั่นใจ การลงทุนจ้างช่างผู้เชี่ยวชาญก็เป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยให้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ของคุณสวยงาม ได้มาตรฐาน และใช้งานได้ยาวนาน

Tags : การติดตั้งไม้เอ็นจิเนียร์ (https://www.kswood.com/%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b9%87%e0%b8%99%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%99%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a3%e0%b9%8c/)